คำประกาศเกียรติคุณ
นายไชยา วรรณศรี
ศิลปินมรดกอีสาน สาขาวรรณศิลป์ (วรรณกรรมร่วมสมัย)
พุทธศักราช ๒๕๖๗
นายไชยา วรรณศรี เกิดเมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๐๙ ปัจจุบันอายุ ๕๗ ปี ภูมิลำเนา จังหวัดสุรินทร์ สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ หลังจากนั้นได้เริ่มงานในอาชีพนักเขียนอิสระ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทนคร ประจำกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทนคร ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๓๕-๒๕๓๗ ตลอดระยะเวลาการสร้างผลงานประเภทสารคดีอย่างต่อเนื่องกว่า ๒๕ ปี มีผลงานรวม ๓๔ เล่ม ซึ่งมีลักษณะเด่นที่การนำเสนอข้อมูลที่หนักแน่น ลุ่มลึก นำเสนอข้อมูลของภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดสุรินทร์ได้เป็นอย่างดี จากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลชั้นต้นจากบุคคลจริงอย่างรอบด้าน วิเคราะห์ปมปัญหา อันซับซ้อนในสังคมด้วยมุมมองหลากหลาย ทั้งจากผู้ที่ประสบปัญหาและผู้แก้ไขปัญหา นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญปัญหานั้น ๆ มุมมองทางศาสนาและกฎหมาย เป็นต้น
นายไซยา วรรณศรี นำข้อมูลจากการลงพื้นที่มาเรียงร้อยอย่างมีวรรณศิลป์ ด้วยลีลาโวหารเรียบง่าย การใช้ภาพพจน์ชวนให้ติดตามและสามารถสร้างอารมณ์สะเทือนใจ นอกจากให้สาระความรู้และตีแผ่ปัญหาสังคมที่ซับซ้อน ยังเปิดพื้นที่ให้แก่เสียงในความเงียบของคนชายขอบและคนในมุมมืด สื่อไปถึงคนส่วนใหญ่ซึ่งไม่เคยได้รับรู้มาก่อน ทำให้ผู้คนเหล่านั้นได้มีที่ยืนอย่างมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เปรียบดังสะพานเชื่อมโยงความเข้าใจระหว่างผู้คนในสังคม ผู้อ่านจึงเข้าใจรากเหง้าและที่มาของปัญหาสังคมอย่างแท้จริง โดยไม่มีอคตินำไปสู่การตระหนักรู้ เกิดมุมมองใหม่ในการเข้าใจชีวิตและสังคม ผลงานที่โดดเด่น เช่น วรรณกรรมเยาวชนปี่ซังข้าวบทความกึ่งสารคดี ตะกวดบ้านตรึม สุรินทร์ และป่าสนองคู สังขะ นวนิยายเรื่อง การกลับบ้านเกิดบนถนสายโกตาบารู บทกวี คนแปลกหน้า นวนิยายเรื่อง โลกใบใหม่ของปอง เป็นต้น
นอกจากสร้างสรรค์ผลงานเขียนที่มีคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง นายไชยา วรรณศรี ยังถ่ายทอดประสบการณ์ทางวรรณศิลป์ ด้วยการเป็นวิทยากรและอาจารย์พิเศษสอนการเขียนสารคดีในสถาบันการศึกษา ร่วมอภิปรายประเด็นปัญหาสังคมเผยแพร่สู่สื่อสาธารณะ เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งสมาคมสโมสรวรรณศิลป์สุรินทร์ ทำให้เกิดนักเขียนหน้าใหม่และผลงานบางส่วนได้รับรางวัลจากการประกวด รวมทั้งเคยดำรงตำแหน่งประธานสโมสรนักเขียนภาคอีสาน
นายไชยา วรรณศรี ได้รับรางวัลเกียรติคุณจากการสร้างสรรค์ผลงาน ได้แก่ พุทธศักราช ๒๕๔๕ รางวัลชมเชย “พานแว่นฟ้า” จากรัฐสภา ประเภทเรื่องสั้น พุทธศักราช ๒๕๕๒ ได้รับโล่เชิดชูเกียรติเป็นศิลปินพื้นบ้านอีสาน ประเภทวรรณกรรมร่วมสมัย จากสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นบุคคลดีเด่นด้านวัฒนธรรม สาขาวรรณศิลป์ รางวัล “ช้างทองคำ” จากสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ พุทธศักราช ๒๕๕๙ ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติเป็น
“ปราชญ์ภูมิปัญญาสุรินทร์” จากสภาวัฒนธรรมจังหวัดวัดสุรินทร์จากผลงานที่ประจักษ์นี้ นายไชยา วรรณศรี จึงสมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินมรดกอีสาน สาขาวรรณศิลป์ (วรรณกรรมร่วมสมัย) พุทธศักราช ๒๕๖๗ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อเป็นเกียรติประวัติสืบไป
ประวัติศิลปินมรดกอีสาน พุทธศักราช ๒๕๖๗
นายไชยยา วรรณศรี
ภูมิหลังพ.ศ. ๒๕๓๙-๒๕๔๐เกิดเมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ปีพุทธศักราช ๒๕๐๙ ปัจจุบันอายุ ๕๗ ปี ภูมิลำเนาจังหวัดสุรินทร์ที่อยู่ปัจจุบันศูนย์ประสานงานสมาคมสโมสรวรรณศิลป์สุรินทร์ เลขที่ ๑๓๖ หมู่ ๑๓ ตำบลเฉนียง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ๓๒๐๐๐ โทรศัพท์ ๐๖ ๔๐๖๘ ๗๗๘๑การศึกษาระดับประถมศึกษาตอนต้น โรงเรียนบ้านห้วงหิน อำเภอแกลง จังหวัดระยองระดับประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนบ้านเลิศอรุณ ตำบลทัพทัน อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนศึกษาผู้ใหญ่ โรงเรียนสังชะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ประสบการณ์พ.ศ. ๒๕๓๕-๒๕๓๗ นักเขียนอิสระ / ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทนศร-ประจำกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทนครพ.ศ. ๒๕๓๗-๒๕๓๘ ประจำกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวคดี / นักเขียนอิสระพ.ศ. ๒๕๓๘-๒๕๓๙ กรรมการประสานงานสโมสรนักเขียนภาคอีสาน / อาสาสมัครมูลนิธิเด็ก-นักเขียนอิสระและเขียนคอลัมน์ประจำที่เนชั่นสุดสัปดาห์ (ท่องไปใต้ตาวัน)คอลัมน์ประจำที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐรายวัน (ประสาลูกทุ่ง)พ.ศ.๒๕๓๙-๒๕๔๐ นักเขียนอิสระ / ฝ่ายวิชาการสโมสรนักเขียนภาคอีสาน / เปิดแหล่งเรียนรู้ศึกษาข้อมูลเรื่องวรรณกรรม “บ้านนักเขียน” จังหวัดสุรินทร์ / คอสัมน์ประจำหนังสือชาวไทยรายสัปดาห์ (ย้อนรอยเขมร) / คอลัมน์ นักรบดำ เนชั่นสุดสัปดาห์พ.ศ.๒๕๔๒ นักเขียนอิสระ / ฝ่ายวิชาการสโมสรนักเขียนภาคอีสาน / บรรณาธิการจดหมายข่าวสโมสรนักเขียนภาคอีสานพ.ศ.๒๕๔๓ นักเขียนอิสระ-ก่อตั้งสโมสรวรรณศิลป์สุรินทร์พ.ศ.๒๕๔๗ นักเขียนอิสระ / เลขานุการเครือข่ายวิชาชีพและสื่อชุมชนจังหวัดสุรินทร์ /เลขาธิการสโมสรวรรณศิลป์สุรินทร์พ.ศ.๒๕๔๗-๒๕๕๐ ประธานสโมสรนักเขียนภาคอีสานพ.ศ.๒๕๕๘-๒๕๖๓ ก่อตั้งรางวัลเปลื้อง วรรณศรี และจัดทำโครงการประกวดรางวัลเปลื้องวรรณศรี (ครั้งที่ ๑-๖) จัดพิมพ์หนังสือ รวมเรื่องสั้น บทกวี รางวัลเปลี้องวรรณศรี (๖ เล่ม) / จัดทำค่ายวรรณกรรมส่งเสริมการอ่านการเขียนในพื้นที่ จังหวัดสุรินทร์พ.ศ. ๒๕๖๕ ก่อตั้งสมาคมสโมสรวรรณศิลป์สุรินทร์ (ทะเบียนเลขที่ สร.๒/ ๒๕๖๕)สำนักงานใหญ่ เลขที่ ๑๓๒๖ หมู่ ๑๓ ตำบลเฉนียง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ตามความในมาตรา ๘๒ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้วให้ไว้ ณ วันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕พ.ศ. ๒๕๖๕-ปัจจุบัน เลขาธิการสมาคมสโมสรวรรณศิลป์สุรินทร์ผลงานพ.ศ. ๒๕๔๖ บทความกึ่งสารคดี “สุรินทร์สำเริง” สำนักพิมพ์อิงฟ้าพ.ศ. ๒๕๕๑ วรรณกรรมเยาวชน “ปีซังข้าว” สำนักพิมพ์วรรรณศรีพ.ศ. ๒๕๕๕ นวนิยาย “ผู้มีบุญ” สำนักพิมพ์ มติชนพ.ศ. ๒๕๕๕ นวนิยาย “การกลับบ้านเกิดบนถนสายโกตาบารู” สำนักพิมพ์ กากะเยียพ.ศ. ๒๕๕๗ บทความกึ่งสารคดี “ตะกวดบ้านตรึม สุรินทร์ และ ป่าสนดงคู สังขะ”สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาสารคามพ.ศ. ๒๕๕๙ อัลบั้มเพลงลูกทุ่ง ชุด “ผ้าป่าพาเศร้า” (แผ่นซีดี และ ลงยูทูป)พ.ศ. ๒๕๖๔ สารคดี “มนุษย์ส้นหนา หน้าบาง” สำนักพิมพ์ไม้ยมกเกียรติประวัติพ.ศ. ๒๕๔๕ ได้รับรางวัลชมเชย “พานแว่นฟ้า” จากรัฐสภา ประเภทเรื่องสั้นพ.ศ. ๒๕๕๒ รับโล่เชิดชูเกียรติเป็นศิลปินพื้นบ้านอีสาน ประจำปี ๒๕๕๕๒ประเภทวรรณกรรมร่วมสมัย จากสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสานมหาวิทยาลัยมหาสารคามพ.ศ.๒๕๕๒ นวนิยายเรื่อง “โลกใบใหม่ของปอง” ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเข้ารอบ ๗ เล่มสุดท้าย วรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ปี ๒๕๕๕๒)พ.ศ.๒๕๕๓ เรื่องสั้น “หลวงพ่อ มือปืน” ได้รับรางวัลชมเชย “พานแว่นฟ้า”จากรัฐสภา ประเภทเรื่องสั้น บทกวี “คนแปลกหน้า” ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเข้ารอบสุดท้ายรางวัลนายอินทร์ อวอร์ด ประเภทกวีนิพนธ์พ.ศ.๒๕๕๔ ได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นบุคคลดีเด่นด้านวัฒนธรรม สาขาวรณศิลป์รางวัล “ช้างทองคำ” จากสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์พ.ศ.๒๕๕๕ บทกวี “ศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด” ผ่านเข้ารอบการประกวดกวีนิพนธ์นิตยสารมติชนสุดสัปดาห์พ.ศ.๒๕๕๗ เรื่องสั้น “ผีเข้า” ผ่านเข้ารอบสุดท้ายตีพิมพ์การประกวดเรื่องสั้นมติชนสุดสัปดาห์พ.ศ.๒๕๕๘ เรื่องสั้น “เจ้าแม่” ผ่านเข้ารอบสุดท้ายตีพิมพ์การประกวดเรื่องสั้นมติชนสุดสัปดาห์พ.ศ.๒๕๕๘ บทกวี “๒๔๗๕-๒๕๕๙” ผ่านเข้ารอบสุดท้ายตีพิมพ์ประกวดบทกวีรางวัลมติชน ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติเป็น “ปราชญ์ภูมิปัญญาสุรินทร์” จากสภาวัฒนธรรม จังหวัดสุรินทร์
……………………………
ที่มา:หนังสือศิลปินมรดกอีสานสืบสานวัฒนธรรมสัมพันธ์ ประจำปี พุทธศักราช ๒๕๖๗