ดีพร้อม มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมสีเขียวในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขับเคลื่อนโปรเจกด์กรีน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นมิตรกับสิ่งแวตสัยม
จ.ขอบแก่น 24 กรกฎาคม 2567 – กรมส่งเสริมฤตสาหกรรม หรือ ตีพร้อม (DIPROM) เร่งเดินหน้า ขับเคลื่อนภาคอุดสาหกรรมสีเขียวในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ก้าวไปข้างหน้า เพื่อโลก เพื่อเรา
ผ่านกลไก 3 ด้าน คือ 1) Green Productivity 2) Green Marketing และ 3) Green Finance เพื่อผลักดันให้
ภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ คำนึงถึงความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยโปรเจกค์กรีนต่าง ๆ ในปี 2567
ได้แก่ 1) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ อาทิ สมุนไพรเชิงพื้นที่เพื่อสุขภาพและความงาม อาหารจากซูเปอร์ฟู้ต
และผลิตภัณฑ์จากเส้นใยชีวภาพ 2) การเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการธุรกิจด้วยโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียน
3) การพัฒบาผลิตภัณฑ์อัพไซเคิล ฯลฯ ผ่านการจัดกิจกรรม “ISAN Moving Green Forward ก้าวไปข้างหน้า
เพื่อโลก เพื่อเรา ชาวอีสาน” ที่มุ่งสร้างการรับรู้และจูงใจให้ผู้ประกอบการให้เห็นความสำคัญในการจัดการภาวะ
โลกร้อนที่เป็นความท้าทายต่อภาคการผลิตของไทยในยุคปัจจุบัน โดยตั้งเป้ายกระดับผู้ประกอบการในพื้นที่
ภาคตะวันออกเอียงเหนือกว่า 300 ราย ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 61.5 ล้านบาท
นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาคอุตสาหกรมไทย
มีความเสี่ยงและความผันผวนจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกประเทศในหลายมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม
และสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดความเสียงและความผันผวนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิด
ปรากฏการณ์ภาวะโลกเดือด ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากกิจกรรมของมนุษย์ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก
จนเกินสมดุล เพื่อผลักดันภาคอุตสาหกรรมให้เติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การบริหางานของ
นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งการให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ
ดีพร้อม (DIPROM) ขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวไปข้างหน้าเพื่ออุตสาหกรรมที่ยั่งยืนผ่านกลไก 3 ด้าน คือ
1) Green Productivity 2) Green Marketing และ 3) Green Finance
นางดวงดาว กล่าวต่อว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เดินหน้านโยบาย RESHAPE
THE FUTURE : โลกเปลี่ยน อุตสาหกรรมปรับ พร้อมรับอนาคต ของนายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริม
อุตสาหกรรม ที่มุ่งเดินหน้าส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการทุกระดับให้สามารถยืนหยัด รับมือ และปรับตัว
ได้เท่าทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ มีศักยภาพในการแสวงหาโอกาสและ
ผลประโยชน์จากความท้าทายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรรม ภายใต้กลยุทธ์การปรับตัวให้ก้าวพันอุตสาหกรรม
ยุคใหม่ (RESHAPE THE INDUSTRY) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภาคอุตสาหกรรมสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
ด้วยการสร้างความตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านการดำเนินโครงการยกระดับธุรกิจSME
ด้วยการประยุกต์ใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งมุ่งส่งเสริมการใช้นวัดกรรมในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและ
ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การพัฒนาผลิตภัตภัณฑ์มูลค่าสูงจากความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงการเพิ่มศักยภาพ
การบริหารการจัดการใช้ทรัพยากรและการหมุนเวียนวัสถุกลับมาใช้ไหม่ให้ใด้มากที่สุด
สำหรับกิจกรรม”ISAN Moving Green Forward ก้าวไปข้างหน้า เพื่อโลก เพื่อเรา ชาวอีสาน”
ในพื้นที่ภาคละวันออกเอียงเหนือในวันนี้ เป็นกิจกรรมที่ช่วยเร่งสร้างการรับรู้ให้ภาคสุดสาหกรรมได้ตระหนัก
และให้ความสำคัญ ในการลดการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง ลดปัญหาค้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรม
ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกิดความตระหนักเห็นถึงความสำคัญของการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
จัดให้มีการบรรยายและเสวนาจากองค์กรและบริษัทชั้นนำของภาคตะวันอกเฉียงเหนือที่มานำเสนอ
องค์ความรู้และประสบการณ์ในการต่อยอยอดธุรกิจยุคใหม่สู่สังคมคาร์บอบต่ำ การบริหารจัดการด้านอุตสาหกรรมสีเขียว
รวมถึงการอัพเดทเทรนด์ตลาด บรรจุภัณฑ์ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามกระแสรักษ์โลกที่กำลังมาแรงอยู่
ในขณะนี้ เช่น ผลิตภัณฑ์ชุดสุภาพสตรีจากวัสดุเหลือใช้ กระเป้าเรียกทรัพย์เรียกเงินเรียกทอง หมอนอิงสมุนไพรปูทูลกระหม่อม
ผลิตภัณฑ์บำรุงตินจากโรงผลิตก๊าซชีวภาพ ผลิตภัณฑ์จากเส้นใยสับปะรด ผลิตภัณฑ์จากเส้นใยกล้วยตานี ผลิตภัณฑ์แปรรูปจาหไข่ผำ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากจิ้งหรืด ชุดแฟชั่นจากวัสดุผสมผสาน ร้องเท้าสุภาพสตรีจากผลิตภัณฑ์เทียนหอม นมอัดเม็ดออร์แกนิค ผลิตภัณฑ์ไม้อัดจากเปลือกสัม เบียร์ที่ผลิตจากเปลือกเมล็ดโกโก้และผลิตภัณฑ์กกรักษ์โลก เป็นต้น ตลอดจนกิจกรรม Green Business Clinic & Networking และการออกบูธจากหน่วยงานพันธมิตรต่าง ๆ ภายในงาน เพื่อเรียนรู้เทรนด์ธุรกิจ องค์ความรู้ต่าง ๆ และมุมองการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมยุคใหม่ครบทุกมิติ รวมถึงการให้แนะนำสินเชื่อสำหรับธุรกิจรักษ์โลกจากสถาบันการเงินต่าง ๆ
นอกจากนี้ ในปี 2567 ยังมีโปรเจกต์กรีนต่าง ๆ ดีต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเพิ่มรายได้ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อีกมากมาย ได้แก่ 1) การพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรเชิงพื้นที่เพื่อสุขภาพและความงาม(Herbal City – Herbal Product) 2) การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารจากซูเปอร์ฟู้ด (Super Food – Super Product) 3) การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเส้นใยชีวภาพ 4) การเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการธุรกิจด้วยโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียน(Orcular Enterprise) 5) การพัฒนาผลิตภัณฑ์อัพไซเคิล (Upcycled Product) 6) การพัฒนาและยกระดับกระบวนการผลิตพลังงานและเชื้อเพลิงจากชีวมวล (Biomass) และ 7) การสร้างความตระหนักและสร้างองค์ความรู้ด้าน BCG ที่มุ่งสร้างการรับรู้และจูงใจให้ผู้ประกอบการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้เห็นความสำคัญในการดำเนินธุรกิจ พร้อมปรับตัวรองรับกฎหมายและกฎระเบียบเกี่ยวกับการจัดการภาวะโลกร้อนที่เป็นความท้าทาย
ต่อภาคการผลิตของไทยในยุคปัจจุบัน และส่งเสริมการใช้นวัตกรรมในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว และสังคมคาร์บอนต่ำ พร้อมเชื่อมโยงสู่การขอมาตรฐานหรือฉลากสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้ายกระดับผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 300 ราย ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 61.5 ล้านบาท และนำร่องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคอุตสาหกรรมทั่วประเทศมุ่งสู่ 7.2 ล้านตันคาร์บอนไตออกไซต์เทียบเท่าต่อปีตามเป้าของกระทรวงอุตสาหกรรม
“การจัดงานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งนี้ ถือเป็นการจัดงานครั้งที่ 3 จากทั้งหมด 4 ครั้ง ใน 4 ภูมิภาค
ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกที่ภาคกลาง เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 ณ สามย่านมิดรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์กรุงเทพฯ ครั้งที่ 2 ที่ภาคเหนือ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2567 ณ โรงแรมเซ็นหารา ริเวอร์โซค์ จังหวัดเชียงใหม่โดยกิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นอีก 1 ครั้ง ในพื้นที่ภาคใต้ ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช” นางดวงคาว กล่าวทิ้งท้าย